top of page

กวนอูรับราชการกับโจโฉ

ตัวละคร

กวนอู

๑. ง้าวมังกรเขียว เป็นอาวุธของกวนอู ยาว ๑๑ ศอก หนัก ๘๒ ชั่ง

 

โจโฉ

 

เตียวเลี้ยว

๒. ม้าเซ็กเทา เซ็กเทา แปลว่า "กระต่ายแดง" เป็นม้าสายพันธุ์มาจากทางตอนเหนือของจีน มีสีแดงเพลิง ความสูงจากกีบถึงหูราว ๖ ศอก ปลายจมูกถึงหางราว ๓ เมตรครึ่ง ว่องไวดุจสายลม เสียงร้องดังกึกก้อง สามารถวิ่งได้ไกลถึงวันละพันลี้ หรือประมาณ ๔๘๐ กิโลเมตรโดยกินหญ้าแค่วันละฟ่อน

เนื้อเรื่อง

 

            กวนอูได้รับมอบหมายให้ปกป้องครอบครัวเล่าปี่ อยู่ ณ เมืองแห้ฝือ รุ้ว่าเล่าปี่ที่อยู่ชีจิ๋วพ่ายให้กับโจโฉแล้ว ก็คิดจะสู้ตาย แต่โจโฉนั้นอยากได้กวนอูมาเป็นพรรคพวกจึงปรึกษากับนายทหาร เตียวเลี้ยวอาสาไปเกลี้ยกล่อมกวนอูเอง ขณะนั้นกวนอูถูกทัพโจโฉล้อมไว้ไม่สามารถหนีได้ เตียวเลี้ยวจึงเข้าไปเจราจาให้กวนอูยอมจำนน เพราะตนได้ทราบว่าเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย เป้นพี่น้องร่วมสาบานกัน หากวันนี้กวนอูรบจนตัวตาย เท่ากับว่ากวนอูได้เสียสัตย์ที่ได้ให้ไว้กับพี่น้องถึง ๓ ข้อด้วยกัน ได้แก่

๑. เล่าปี กวนอู เตียวหุย สาบานเป็นพี่น้องกันที่สวนดอกท้อ ว่าแม้ไม่ได้เกิดวันเดือนปีเดียวกัน ก็ขอ ตายวันเดือนปีเดียวกัน หากกวนอู ถึงแก่ความตาย ก็จะถือเป็นความผิดข้อที่ ๑ เนื่องจากว่าเล่าปี่และเตียวหุยยังไม่ตายในการศึกที่ชีจิ๋ว

๒. เล่าปี่ ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์คิดกอบกู้บ้านเมือง บัดนี้เล่าปี่ยังไม่สำเร็จการใหญ่ หากกวนอูต้องตายลงเสียก่อน ก็จะถือเป็นความผิดข้อที่ ๒ เพราะมิได้อยู่ช่วยงานเล่าปี่ให้สำเร็จการใหญ่ และหากกวนอูตายในวันนี้ เล่าปี่และเตียวหุยก็จะต้องยกมาแก้กันจนตายตกตามกันไปทั้ง ๓ พี่น้อง

๓. เล่าปี่ฝากครอบครัวของตนแก่กวนอู หากกวนอูตาย ก็จะถือเป็นความผิดข้อที่ ๓ เพราะหากกวนอูตาย ก็ย่อมไม่มีใครดูแลครอบครัวของเล่าปี่

 

            กวนอูได้ฟังเตียวเลี้ยวดังนั้นจึงตัดสินใจยอมจำนน ให้เตียวเลี้ยวไปบอกโจโฉว่าจะไปอยู่ด้วยพร้อมกับพาพี่สะใภ้ทั้งสองไปด้วยกัน แต่ต้องขอให้โจโฉสัญญาในข้อเสนอ ๓ ประการของตนด้วย ซึ่งกวนอูขอให้โจโฉยอมรับข้อเสนอว่า

๑. กวนอูจะไม่ไปอยู่กับโจโฉในฐานะขุนพลของโจโฉ หากแต่ในฐานะของข้าพระบาทพระเจ้าเหี้ยนเต้

๒. ขอให้โจโฉดูแล ให้เกียรติพี่สะใภ้ทั้งสองเป็นอย่างดี เบี้ยหวัดเงินเดือนตามยศของเล่าปี่ ให้จ่ายแก่พี่สะใภ้ทั้งสอง และห้ามผู้ใดมากร้ำกรายใกล้ประตูห้อง

๓. หากได้ข่าวเล่าปี่เมื่อไร ตนจะขอไปหาทันที แม้จะไม่ได้กล่าวลาโจโฉก็ตาม หรือแม้โจโฉจะห้ามก็มิฟัง

 

            โจโฉยอมรับข้อเสนอดังกล่าว กวนอูจึงไปอยู่กับโจโฉ โจโฉก็พยายามที่จะซื้อใจกวนอูอยู่ทุกวี่วัน โดยสามวันแต่งโต๊ะเลี้ยงทีหนึ่ง อีกทั้งพากวนอูไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ กวนอูได้รับพระราชทานนามว่า "บีเยียงก๋ง" แปลว่า เจ้าหนวดงาม ครั้งหนึ่งกวนอูกินเลี้ยงร่วมกับโจโฉ โจโฉเห็นเสื้อกวนอูเก่าและขาดจึงให้คนนำเสื้อตัวใหม่ที่ปราณีต งดงามมาให้ กวนอูรับไว้แต่ถอดเสื้อตัวเก่าออก สวนเสื้อตัวใหม่ไว้ด้านในและสวมเสื้อตัวเก่าทับไว้ โจโฉสงสัยจึงถามว่าเหตุใดจึงรักเสื้อเก่าขนาดนี้ กวนอูตอบว่าเสื้อตัวเก่านี้เล่าปี่เป็นคนให้ วันหนึ่งโจโฉเห็นม้าของกวนอูผอมโซ จึงยกม้าเซ็กเทา ซึ่งเคยเป็นม้าฝีเท้าดีของลิโป้ให้ กวนอูปลาบปลื้มใจยิ่งนัก ถึงกับหลุดปากออกมาว่า ดีจริงวันใดเมื่อเรารู้ข่าวว่าท่านพี่เล่าปี่อยู่ที่ใด เราจะได้ไปหาเล่าปี่ได้เร็วขึ้น โฉจึงมีความวิตกยิ่งนัก ใจหนึ่งก็ชื่นชมกวนอูว่ามีความกตัญญูหาผู้ใดเสมอมิได้ แต่อีกใจหนึ่งรู้สึกน้อยใจที่พยายามเลี้ยงดูกวนอูด้วยทรัพย์สมบัติและยศศักดิ์เท่าใด ก็ไม่สามารถทำให้กวนอูเสื่อมความภักดีต่อเล่าปี่ได้ โจโฉจึงปรึกษากับเตียวเลี้ยวว่า เห็นจะเปล่าประโยชน์ที่จะเลี้ยงดูกวนอูอีกต่อไป เตียวเลี้ยวจึงอาสาไปหยั่งฟังความคิดเห็นของกวนอูดูก่อน แล้วเตียวเลี้ยวก็ได้คำตอบจากกวนอูว่า สำหรับโจโฉนั้น กวนอูสำนึกในบุญคุณอยู่เสมอ แต่เล่าปี่เป็นพี่ร่วมสาบาน มีคุณแก่กวนอูมาก่อน ถ้าเล่าปี่ตาย กวนอูก็จะตายตามไปด้วยดังที่สาบานไว้ แม้ว่ากวนอูจะต้องจากโจโฉไป ก็จะไม่ลืมบุญคุณของโจโฉ และจะต้องตอบแทนบุญคุณของโจโฉอย่างแน่นอน เตียวเลี้ยวนำความไปบอกโจโฉ โจโฉได้แต่ถอนหายใจ วิตกกังวลที่ไม่สามารถซื้อใจกวนอูมาจากเล่าปี่ได้ ซุนฮกจึงแนะนำแก่โจโฉว่า เมื่อกวนอูบอกว่าจะแทนคุณก่อนจากไป เพราะฉะนั้น เวลามีศึกก็อย่าให้กวนอูออกรบ เพราะถ้ายังไม่มีความชอบ กวนอู ก็จะยังอยู่กับโจโฉเป็นมั่นคง โจโฉ เห็นด้วยกับซุนฮก ซ้ำโจโฉยังแสร้งใช้อุบาย เพื่อให้น้ำใจของกวนอูหักหาญแปรเปลี่ยนจากเล่าปี่ ในคราวระหว่างเดินทัพทางไกล เมื่อหยุดทัพ ณ ตำบลใด ยามตกค่ำ โจโฉก็จัดให้กวนอูกับ ฮูหยินของเล่าปี่ พักอยู่ร่วมกระโจมเดียวกัน หมายว่าหากชายหญิงอยู่ใกล้ชิดกัน ย่อมเสมือนน้ำมันใกล้เปลวไฟ ซึ่งพร้อมที่ปะทุลุกโชนด้วยเรื่องความรักความใคร่ โจโฉจึงเปิดช่องให้กวนอูคิดล่วงเกินฮูหยินเล่าปี่ ซึ่งนำไปสู่การแตกหักกับเล่าปี่ แต่การณ์ผิดคาด ทุกค่ำคืน กวนอู จะออกมาอยู่หน้ากระโจมพักเพียงลำพัง กุมง้าวมังกรเขียวไวัอย่างมั่นคง นั่งจุดตะเกียงอ่านหนังสือเฝ้ารักษาการณ์ภายนอกอย่างสงบนิ่งไม่ขยับเขยี้อนตลอดคืน เป็นเช่นนี้ทุกค่ำคืน

 

            ฝ่ายเล่าปี่พ่ายศึกหลบหนีไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว ได้ยุยงให้อ้วนเสี้ยวออกรบกับโจโฉ สมรภูมิกัวต๋อเริ่มต้นขึ้น อ้วนเสี้ยวได้สั่งให้งันเหลียงทหารเอกเป็นทัพหน้า เดินทัพเข้าทางด่านแปะเบ๊ กวนอูอาสาออกรับศึกเอง แต่โจโฉเกรงว่ากวนอูจะหาเหตุแทนคุณ จึงไม่อนุญาต แต่งันเหลียงฝีมือร้ายกาจ ตีแปะเบ๊แตกอย่างรวดเร็วและยังตามตีทัพโจโฉเสียหายสาหัส โจโฉจำใจต้องให้กวนอูออกสู้รบ กวนอูฟันงันเหลียงคอขาดตาย อ้วนเสี้ยวจึงส่งบุนทิว ทหารเอกที่มีฝีมือเทียบเคียงกับงันเหลียงออกรบ กวนอูก็ฟันบุนทิวตกม้าตายเสียอีกคน กวนอูฆ่าแม่ทัพของอ้วนเสี้ยวตายถึงสองคน ซึ่งควรจะถือเป็นการตอบแทนบุญคุณของโจโฉได้ในระดับหนึ่ง อยู่มากวนอูได้ข่าวว่าเล่าปี่ไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว จึงคิดเดินทางไปหาเล่าปี่

 

            กวนอูเดินทางไปหาโจโฉเพื่อร่ำลา แต่โจโฉรู้ว่ากวนอูจะลาไปหาเล่าปี่จึงให้เคาทูไปบอกว่ามหาอุปราชไม่อยู่ กวนอูอาศัยสัญญาของโจโฉข้อที่ ๓ พาพี่สะใภ้ทั้งสองขึ้นเกวียนออกจากฮูโต๋ไปยังโห้ปักที่เล่าปี่อยู่โดยพลการ แต่เนื่องจากไม่ได้ร่ำลาโจโฉจึงไม่มีหนังสืออนุญาตเปิดทาง จึงทำให้มีปัญหาในการผ่านแดน กวนอูเดินทางถึงด่านตังเหลงก๋วน ขงสิ้วนายด่านสอบถามว่ากวนอูจะไปไหน กวนอูตอบตามความจริง ขงสิ้วถามหาหนังสือผ่านทางแต่กวนอูไม่มี โต้เถียงกันจนสู้กัน กวนอูฆ่าขงสิ้วตายและฝ่าด่านเดินทางต่อไปถึงด่านเมืองลกเอี๋ยงซึ่งเป้นราชธานีเก่า พบกับฮันฮกเจ้าเมืองลกเอี๋ยง เกิดปัญหากันอีกเช่นเคย ฮันฮกจึงให้เบงทันสู้กับกวนอู กวนอูฆ่าทั้งเบงทันและฮันฮกตาย และฝ่าด่านไปยังกิสุยก๋วน เตียนฮีนายด่านทราบข่าวว่ากวนอูฝ่ามา ๒ ด่าน สังหารขุนพลไปแล้ว ๓ คนจึงออกอุบายเลี้ยงต้อนรับกวนอูอย่างดี ณ วัดตีนก๊กซือ และให้ซุ่มทหารไว้ลอบสังหารกวนอูเมื่อกวนอูเมาไม่ได้สติ แต่พระรูปหนึ่งชื่อเภาเจ๋งเตือนกวนอูไว้ก่อน แผนจึงแตก และเตียนฮีถูกกวนอูฟันขาดสองท่อน กวนอูเร่งเดินทางเนื่องจากกลัวทัพใหญ่จะรู้เรื่องและยกตามมาทัน ผ่านเมืองเอี๋ยงหยงเป็นด่านที่ ๔ สังหารอองเซ็กเจ้าเมือง ผ่านด่านที่ ๕ หวยจิวก๋วน สังหารจินกี๋ ขณะกำลังรบติดพันอยู่ที่หวยจิวก๋วนนั้นเอง แฮหัวตุ้นได้รับคำสั่งจากโจโฉถือธงมหาอุปราชมาเบิกทางให้ โจโฉก็ได้เดินทางมาส่งด้วยตนเอง โจโฉให้เสื้อตัวใหม่แก่กวนอูเป็นของแทนใจ กวนอูกลับดูหมิ่นโจโฉด้วยการใช้ง้าวรับเสื้อ และไม่ยอมลงจากหลังม้า ทั้งนี้อาจเป็นเพราะกวนอูไม่มั้นใจในความปลอดภัยหากต้องวางง้าวและลงจากหลังม้าก็เป็นได้ หลังจากนั้นโจโฉก็เดินทางไปหาเล่าปี่ ณ เมืองโห้ปักได้อย่างสวัสดิภาพ

อาวุธประจำตัวกวนอูคือ "ง้าวมังกรเขียวเสี้ยวจันทร์" จริงหรือ?

ในนิยายสามก๊กบทที่ 1 กล่าวว่า กวนอู "ตีง้าวมังกรเขียวเสี้ยวจันทร์ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า 'งามเหี้ยมสังหาร' หนักแปดสิบสองชั่ง" ระหว่างด้ามกับตัวง้าวเป็นรูปจันทร์เสี้ยว จึงมีชื่อว่า "ง้าวมังกรเขียวเสี้ยวจันทร์" ปัญหาอยู่ที่ว่าอาวุธที่มีชื่อพิเศษเช่นนี้ ไม่ใช่อาวุธที่ใช้ในสงครามแต่ใช้ในการแสดง ในหนังสือ "อู่เป้ยจื้อ บรรพยวดยานและอาวุธ" บันทึกไว้ว่า "ง้าวเสี้ยวจันทร์ใช้ฝึกซ้อมแสดงอานุภาพ ไม่ใช้ในสมรภูมิจริง" และในพงศาวดารสามก๊ก ภาคจ๊กก๊ก บทประวัติกวนอู ก็มีบันทึกว่า "อ้วนเสี้ยวส่งทหารเอกชื่องันเหลียงไปโจมตีเล่าเอี๋ยนเจ้าเมืองตังกุ๋นที่อำเภอเป๊กหม่า โจโฉให้เตียวเลี้ยวกับกวนอูไปเป็นทัพหน้ารับศึก กวนอูเห็นธงและสัปทนรถของงันเหลียงก็โผนม้าเข้าไปแทงงันเหลียงตายท่ามกลางทหารมากมายแล้วตัดหัวหลับมา ทหารอ้วนเสีย้วมิอาจรับมือได้ อำเภอเป๊กหม่าจึุงพ้นจากวงล้อม" บันทึกประวัติศาสตร์ตอนนี้บอกว่ากวนอูแทนงันเหลียงตาย แสดงว่าอาวุธที่กวนอูใช้ไม่ใช่ง้าว เพราะง้าวใช้ฟัน ไม่ได้ใช้แทง

bottom of page